Color Pie Series – White
สวัสดีผู้อ่านที่รักทุกท่าน บทความนี้เป็น บทความแรก ในจำนวน 5 บทความ ซึ่งเราจะเล่าถึง แนวความคิด ปรัชญา และพื้นฐานของสีต่างๆ ในเกม MTG ซึ่ง แนวความคิดเหล่านี้ จะสะท้อนออกมาในการ์ดของสีนั้นๆ ผมคิดว่าหลังจากท่านอ่านบทความในซีรี่ส์นี้ จะทำให้ท่านเข้าถึง สนุกและอินไปกับเกม Magic The Gathering มากยิ่งขึ้นครับ
โดยสามารถติดตามบทความสีอื่นๆได้
Color Pie Series – Green
Color Pie Series – Red
Color Pie Series – Black
Color Pie Series – Blue
อารัมภบท
มานา (MANA) คือพื้นฐานของทุกสรรพสิ่ง ในจักรวาล Multiverse ของ Magic The Gathering แบ่งทุกอย่างเป็น มานา 5 สี รวมถึงผู้เล่นที่รับบทบาทเป็นจอมเวทย์ผู้ใช้มานาในเกมนี้ด้วย โดยมานาทั้ง 5 สีประกอบด้วย สีขาว สีฟ้า สีดำ สีเเดง สีเขียว
ซึ่งแต่ละสีก็มีจุดเด่นจุดด้อย ความเชื่อและแนวความคิดที่แตกต่างกันไป เราเรียกมานาทั้ง 5 สีนี้ว่า The Color Pie เปรียบเสมือนพายหรือขนมเค้กก้อนใหญ่ที่แบ่งเป็น 5 ส่วนเท่าๆกัน มานาเเต่ละสีจะมีสีที่เป็นมิตร (Ally Color) 2 สี เเละ สีที่เป็นอริ (Enemy Color) 2 สี โดยสีที่เป็นมิตรจะอยู่ข้างกัน เเละสีที่เป็นอริจะอยู่ตรงข้ามกัน เช่น เขียวเป็นมิตรกับ ขาวเเละเเดง เเต่เป็นอริกับฟ้าเเละดำ
สีแรกที่เราจะพูดถึงในวันนี้คือสีขาว มานาขาวมีสัญลักษณ์เป็นพระอาทิตย์ ถือกำเนิดมาจาก Plains ซึ่งแปลว่า ที่ราบ ภาพของการ์ดแลนด์ Plains ก็มักจะเป็นภาพทุ่งหญ้าที่ดูเงียบสงบ มองแล้วรู้สึกสบายใจ
สีขาว มี สีพันธมิตรคือ สีเขียว และสีฟ้า มีสีศัตรูคือ สีแดงและสีดำครับ
ความมุ่งหวังของสีขาว
จอมเวทย์สีขาว ต้องการสันติภาพเเละความเท่าเทียม พวกเขาเห็นโลกนี้ว่ามีผู้คนที่ทุกข์ยาก ลำบากมากมายเหลือเกิน และเชื่อว่า ถ้าทุกคนหันมาร่วมมือกันเป็นหนึ่งเดียว เข้าใจซึ่งกัน ทุกคนก็จะมีความสุข พวกเขาเชื่อว่าทรัพย์ยากรในโลกนี้มีเพียงพอที่จะทำให้ทุกๆคน กินอื่ม นอนหลับ ไม่ทุกข์ยาก เรียกได้ว่าโลกในอุดมคติของผู้ใช้มานาขาวคือ สวรรค์บนดินดีๆนี่เอง ลองคิดภาพดูสิครับ โลกที่ไม่มีการแก่งแย่งชิงดี ทุกๆคนพอใจในสิ่งที่ตัวเองมี และร่วมมือร่วมใจ ลงมือลงแรงโดยมีจุดมุ่งหมายเดียวกัน โลกที่ทุกคนมีความสุขอย่างเท่าเทียมกัน นี่แหละคือสวรรค์บนดินของสีขาว ฟังดูพระเอกมากเลยใช่ไหมล่ะ
วิธีการของสีขาว
วิธีการที่จะนำไปสู่ความมุ่งหวังนั้นได้ สีขาวเชื่อว่าการที่ทุกคนจะมีความสุขเท่าเทียมกันได้ คือการเสียสละประโยชน์ส่วนตน เพื่อส่วนรวม คำว่าเพื่อส่วนรวม หรือเพื่อจุดหมายของกลุ่มจึงเป็นแกนหลักของความคิดแบบสีขาวไปด้วย ซึ่งก็แสดงออกมาผ่านวิธีการต่างๆของสีขาว คือการยึดถือกฎ ระเบียบ และหลักคุณธรรมครับ สีขาวเชื่อว่า เมื่อคนเรามีมากมายหลายจำพวก การที่จะทำให้แต่ละคนคิดเหมือนๆกัน และทำเหมือนๆกันนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ แต่เมื่อทุกคนทำตามกฎ ระเบียบ และยึดหลักคุณธรรม สังคมก็จะอยู่ในความสงบเรียบร้อยและเจริญก้าวหน้าไปได้เอง
สีขาวไม่เชื่อในการใช้ความรุนแรงในการแก้ไขปัญหา แต่ก็ไม่เคยลังเลเลยที่จะจัดการคนที่ไม่ทำตามกฎ หรือคนที่รุกรานตัวเองก่อน การป้องกันและพลังของคนหมู่มากจึงเป็นจุดเด่นของสีขาวครับ
แนวคิดข้างต้นของสีขาวจึง ถูกแสดงออกมาผ่านการ์ดครีเจอร์ของสีขาว ซึ่งมักจะมีภาพลักษณ์ แบบพระเอก หรือตัวละครฝ่ายดี เช่นเป็น ทหาร อัศวิน บาทหลวง และนางฟ้าต่างๆ ยกตัวอย่างเช่น ทหาร และอัศวิน ล้วนแต่เป็นนักสู้ที่ต้องทำตามกฎระเบียบของกองทัพ และคำสั่งของผู้บังคับบัญชา นางฟ้าก็เป็นการ์ดครีเจอร์ที่มักจะแสดงด้วยภาพที่สวยงาม มีคุณธรรมและความเมตตา
ครีเจอร์สีขาวมักมีพลังน้อยกว่าสีอื่น แต่จะแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆถ้าอยู่รวมกันจำนวนมาก
แนวคิดในการป้องกันตัวเองของสีขาว นี้มักแสดงออกผ่านคีย์เวิร์ด Vigilance คือการโจมตีโดยไม่แทปครีเจอร์ ทำให้สามารถโจมตีและป้องกันตัวเองได้ในคราวเดียวกัน ซึ่งยังสะท้อนถึงความเป็นระเบียบ วินัยของสีขาวอีกด้วย
สีขาวไม่เชื่อในการทำลาย ดังนั้นการ์ดที่จัดการครีเจอร์ของสีขาวจึงมักเป็นการ์ดที่เอ็กไซล์ ครีเจอร์ คือทำให้ครีเจอร์หายไปจากเกม เหมือนว่าถูกขังในอีกมิติ แต่ไม่ได้ฆ่านะ การ์ดทำลายครีเจอร์ของสีขาวมักจะใช้ได้ก็ต่อเมื่อถูกอีกฝ่ายโจมตีเข้ามาก่อนครับ แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นว่า สีขาวก็พร้อมจะฆ่าในนามของการป้องกันตัวเอง
สีขาวมองว่า โลกจะสงบสุข ถ้าผู้คนยึดถือกฎระเบียบ แล้วกฎระเบียบมาจากไหนล่ะ ก็ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากสีขาวเป็นคนออกกฎนั่นเอง สีขาวจึงมีการ์ดประเภทเอ็นชานต์เมนท์ จำนวนมาก เอ็นชานต์เม็นท์ เป็นการ์ดที่อยู่อย่างถาวรบนสนาม ซึ่งเป็นการ์ด ที่เปลี่ยนแปลง หรือออกกฎใหม่ให้ผู้เล่นต้องปฏิบัติตาม ซึ่งเมื่อพูดถึงกฎระเบียบก็คือการห้ามนั้นเองครับ
ด้านมืดในโลกของสีขาว
จากที่กล่าวถึงข้างต้น ท่านผู้อ่านอาจจะคิดว่า สีขาวนี่มันช่างเป็นพระเอกเสียจริงๆ โลกที่ทุกๆคนมีความสุขอย่างเท่าเทียมกันนี่มันช่างวิเศษเหลือเกิน
โลกยุคปัจจุบันเราอยู่ในโลกแบบทุนนิยม ที่ต่างคนต่างแก่งแย่งชิงดีเพื่อความสุขของตน ใครที่เก่งกว่า ขยันกว่า ก็มีโอกาสประสบความสำเร็จมากกว่า มีโอกาสสุขสบายกว่า มีโอกาสได้ใช้สิ่งของที่ดีกว่า มีโอกาสได้กินอาหารที่อร่อยกว่า เป็นเรื่องปรกติ แต่ในโลกที่เป็นอุดมคติของสีขาว ไม่ว่าท่านจะดิ้นรนเท่าใดก็ตาม ท่านก็จะได้รับสิ่งต่างๆ เท่ากับเพื่อนอีกคนที่นอนกลิ้งอยู่เฉยๆ ในนามของความสุขที่เท่าเทียมกัน ทุกๆคนจะมีความสุขความมั่งคั่งที่มากขึ้นก็ต่อเมื่อทุกๆคนร่วมมือร่วมใจพร้อมๆกัน แนวความคิดที่ว่าก็ฉันขยันกว่า เก่งกว่า ฉันต้องได้สิ่งที่ดีกว่า เป็นแนวความคิดแบบสีดำที่เต็มไปด้วยความทะเยอทาย ซึ่งตรงกันข้ามกับสีขาวอย่างสิ้นเชิง
โลกที่ปกครองด้วยสีขาว จึงเป็นโลกที่ให้ประโยชน์กับคนที่อ่อนแอกว่า มีน้อยกว่า ลำบากกว่า สีขาวจะทำให้เขาเหล่านี้มีความสุขขึ้น แต่กับคนที่เก่งกว่า ร่ำรวยกว่า มีความสุขมากกว่า จะต้องเสียประโยชน์อย่างแน่นอน ในนามของการเสียสละเพื่อส่วนรวม
ด้านมืดของสีขาวนี้ มักจะแสดงออกด้วยการ์ดทำลายของสีขาวครับ สีขาวเป็นสีที่มีการ์ดที่ทำลายสิ่งต่างๆแทบจะมากที่สุดในโลกของเกม MTG สีขาวไม่เกรงกลัวการทำลายทุกๆอย่างแบบล้างโลก ตราบใดที่เมื่อทำแล้วทุกๆคนจะเท่าเทียมกัน
การทำลายคนที่มีมากกว่า ให้เหลือเท่ากับคนที่มีน้อยกว่า ก็เป็นความยุติธรรมในแบบสีขาวครับ
การทำให้คนที่มีน้อยกว่า มีเท่ากับคนที่มีมากกว่าก็เป็นความยุติธรรมในแบบของสีขาวเช่นกันครับ
ตัวร้ายที่เป็นการ์ดสีขาว ก็มักจะเป็นคนที่เลวสุดๆ ไปเลยครับ คิดดูว่า คนที่ทำเรื่องโหดร้าย แต่เขาเชื่อโดย บริสุทธิ์ใจว่าตนกำลังทำสิ่งที่ดีงามอยู่นี่มันน่ากลัว กว่าคนที่เลวและรู้ตัวว่าตัวเองทำเลวนะครับ ไม่ว่าจะเป็น Heliod, God of the Sun ตัวร้ายประจำโลก Theros ที่ทั้งโกหก หลอกใช้และหักหลังได้แทบทุกคนเพื่อปกป้องความสงบสุข ความมั่นคงของบัลลังค์เหล่าเทพ หรือ Elesh Norn ที่ใช้ลิทธิศาสนาในการรวม Phyrexia เพื่อยึดครองโลก Mirrodin
สรุป
ที่กล่าวมาข้างต้น น่าจะทำให้ผู้อ่านทุกท่าน เข้าถึงอารมณ์และแนวความคิดของจอมเวทย์สีขาวในเกม MTG ได้มากยิ่งขึ้นนะครับ โลกของเกม MTG ที่ก่อตั้งมาเป็นปีที่ 25 ณ วันที่เขียนบทความนี้ ยังมีเรื่องสนุก อ่านเพลินๆอีกมากเลย หวังว่าเราจะได้พบกันในโอกาสหน้านะครับ สวัสดี